ก่อนท้อง… เตรียมพร้อมอย่างไรบ้าง 

โดย พญ. รัตน์นภัส ตั้งมะโนมานะ

หมอสูติ-นรีเวช และมะเร็งนรีเวช

Certified Personal, Pregnant and Postpartum Trainer 

หลายคนคงจะมีความกังวลเกี่ยวกับการท้อง… ว่าต้องปฏิบัติตัวอย่างไรถึงจะเหมาะสม หมอจึงมีคำแนะนำเกี่ยวกับการปฏิบัติตัว ยาบำรุงก่อนการตั้งครรภ์ รวมไปถึงการตรวจเลือดก่อนแต่งงานไว้ในบทความนี้ค่ะ 

ปัจจัยที่ทำให้ท้องยากขึ้นนั้นมาจากสาวๆ คนเดียวเพียง 40 เปอร์เซนต์นะคะ จริงๆแล้ว มาจากฝ่ายชายก็สูงเท่าๆกันถึง 40 เปอร์เซนต์เช่นเดียวกันค่ะ มาจากทั้งคู่ คือ ทั้งฝ่ายหญิงและชาย ได้ถึง 10 เปอร์เซนต์ นอกจากนั้นยังไม่ทราบสาเหตุค่ะ 

โดยปัจจัยเสริมเกิดได้จากอายุที่มากขึ้น การสูบบุหรี่ การมีเพศสัมพันธ์ไม่สม่ำเสมอ (น้อยกว่า 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์) โรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน การติดเชื้อ เป็นต้น 

ในผู้หญิง หากรอบเดือนมาผิดปกติ เช่น กลุ่มอาการถุงน้ำรังไข่ ทำให้ไข่ไม่ตกเรื้อรัง ท่อนำไข่/มดลูกผิดปกติ หรือปวดท้องประจำเดือน มีผังพืดในโพรงมดลูก โรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ ก็ทำให้ท้องมีโอกาสลดลงได้ค่ะ ส่วนในฝ่ายชายเกิดจากน้ำเชื้อเป็นหลักค่ะ ตั้งแต่การสร้าง การเคลื่อนไหว และ การหลั่งน้ำอสุจิ หรือมีการบาดเจ็บติดเชื้อที่อัณฑะ เป็นต้น

ดังนั้น การเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์ ทำได้โดยกำจัดปัจจัยเสริม โดยปรับการกิน การออกกำลังกาย กรวมถึงการทำการบ้านให้สม่ำเสมอ และปรึกษาแพทย์สูตินรีเวชเพื่อรับการตรวจประเมินค่ะ 

อย่างแรกที่แนะนำเลยก็คือ การเลิกสูบบุหรี่และเลิกดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ กินอาหารที่มีประโยชน์ เน้นอาหารครบ 5 หมู่ ในปริมาณที่เหมาะสม หากรับประทานยาประจำตัว เช่น ไทรอยด์ ยากดภูมิคุ้มกัน ต้องแจ้งแพทย์เจ้าของไข้เสมอเมื่อต้องการตั้งครรภ์ หยุดยาสิว หรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมวิตามินเอ เพราะยาเหล่านี้ อาจจะมีผลต่อเด็กได้ค่ะ นอกจากนี้ หมอแนะนำให้ออกกำลังกาย และลดน้ำหนักในผู้ที่มีน้ำหนักเกิน รวมทั้งนับวันไข่ตกหรือใช้แผ่นตรวจฮอร์โมนการตกไข่ ก็จะทำให้ท้องได้ง่ายขึ้นค่ะ 

สูติแพทย์จะทำการ ตรวจร่างกาย เจาะเลือด ตรวจโรคทางพันธุกรรม ตรวจการติดเชื้อ ภาวะซีด และภูมิคุ้มกันหัดเยอรมัน รวมถึงรับวัคซีน และยาที่จำเป็นสำหรับการท้องค่ะ 

ตรวจร่างกายทั่วไป

  • ดูความสมบูรณ์ของร่างกายและโรคประจำตัว

ตรวจภายในสำหรับคุณแม่

  • ตรวจมดลูก รังไข่ และท่อนำไข่
  • ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก

จดประจำเดือน ตรวจเลือดและปัสสาวะ 

  • ดูความเข้มข้นของเลือด โรคเลือด โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และหาภูมิคุ้มกันโรค

ตรวจโรคติดต่อ

  • โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ พาหะธาลัสซีเมีย

ให้คำแนะนำ 

  • การนับวันตกไข่ 
  • การทานอาหารและการออกกำลังกาย 
  • ยาบำรุงอสุจิ และสมองทารก 
  •  แจ้งผลการตรวจเลือด และการฉีดวัคซันเพิ่มเติม (ถ้ามี)

โดยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่บีบอนด์คลินิก 

Scroll to Top